top of page

SIAMPOOL THAILAND

BLOG & UPDATE

สิ่งที่เจ้าของสระว่ายน้ำควรรู้เกี่ยวกับวิธีการเติมคลอรีนและควบคุมคุณภาพน้ำด้วยตัวเอง

  • รูปภาพนักเขียน: Siampool Thailand
    Siampool Thailand
  • 20 มิ.ย.
  • ยาว 1 นาที
เติมคลอรีนด้วยตัวเอง

คลอรีนสระว่ายน้ำ ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียที่เป็นอันตรายกับสุขภาพของผู้ใช้เท่านั้น ยังยับยั้งและป้องกันการเจริญเติบโตของตะไคร่น้ำ ที่มักทำให้น้ำมีสีเขียวและมีกลิ่นเหม็นได้อีกด้วย ช่วยให้น้ำใสสะอาด ไม่เขียว ไม่มีกลิ่นเหม็น เล่นได้อย่างมั่นใจ 


โดยการเติมคลอรีนสระว่ายน้ำนั้นควรทำอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากในอากาศมีฝุ่นละอองและเศษสิ่งสกปรกที่ตกค้างในน้ำได้ง่าย ทำให้น้ำขุ่นและเขียว ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพผู้ใช้งาน ดังนั้นควรมีการตรวจวัดระดับคลอรีนและค่า pH อยู่เสมอ และควรให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสระว่ายน้ำดูแลเพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพน้ำปลอดภัยตลอดเวลา


การควบคุมคุณภาพน้ำสำคัญอย่างไร?

เพื่อให้คลอรีนทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องควบคุมค่า pH ให้อยู่ในช่วง 7.0 – 7.6 หากค่า pH สูงหรือต่ำเกินไป คลอรีนจะสูญเสียความสามารถในการฆ่าเชื้อโรค อีกทั้งยังอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตาผู้ใช้ได้


นอกจากนี้ ยังต้องควบคุมระดับคลอรีนให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (1–3 ppm) หากเติมมากเกินไป อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากน้อยเกินไป จะไม่สามารถฆ่าเชื้อได้เพียงพอ ทำให้น้ำอาจขุ่นหรือเขียวง่ายขึ้น


ก่อนเติมคลอรีนสระว่ายน้ำ ต้องทำอะไรบ้าง

1. ตรวจสอบค่า pH ในน้ำ

ในการวัดค่า pH สระว่ายน้ำปัจจุบัน นิยมใช้เครื่องมือ pH Meter ที่มีความละเอียดและแม่นยำสูง ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งแบบปากกา แบบตั้งโต๊ะ แบบติดตั้ง และแบบมือถือ ใช้งานง่ายแค่จุ่มอุปกรณ์ลงไปในสระ เครื่องก็จะบอกค่า pH ทันที โดยค่า pH ที่เหมาะสมนั้นต้องอยู่ระหว่าง 7.0 – 7.6


2. ตรวจค่าคลอรีนในน้ำ

สำหรับการวัดค่าคลอรีนสระว่ายน้ำ จะนิยมใช้แถบทดสอบ โดยจุ่มแถบทดสอบลงในน้ำ รอให้แถบทดสอบเปลี่ยนสี แล้วเปรียบเทียบสีกับแผนภูมิเพื่อกำหนดระดับ ซึ่งค่าคลอรีนที่ต้องรักษาจะอยู่ที่ 1–3 ppm หากพบว่าค่าคลอรีนสูงเกินไป หรือมากกว่า 5 ppm ให้ลดค่าคลอรีนโดยปล่อยให้น้ำโดนแดด หรือเปิดระบบกรอง แต่ถ้าค่าคลอรีนต่ำ หรือน้อยกว่า 1 ppm สามารถเติมคลอรีนเพิ่มเข้าไปได้


วิธีการเติมคลอรีนสระว่ายน้ำด้วยตัวเองเบื้องต้น

สำหรับปริมาณในการเติมคลอรีนสระว่ายน้ำเบื้องต้นนั้น จะต้องเติมคลอรีน 4 กรัม ต่อน้ำ 1 คิวบิกเมตร หรือ 1,000 ลิตร โดยทั่วไป คลอรีนสระว่ายน้ำมีทั้งแบบผง แบบเกล็ด และแบบก้อน ซึ่งแต่ละชนิดมีวิธีจัดการและข้อควรระวังที่แตกต่างกัน เช่น ต้องละลายน้ำก่อน หรือใช้ทุ่นลอย เพื่อป้องกันการกัดพื้นสระ การเติมคลอรีนสามารถเติมด้วยตัวเองได้ แต่ทางที่ดีควรให้ผู้มีความรู้แนะนำและใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมดูแล เพื่อให้ปลอดภัยและยืดอายุสระว่ายน้ำ


1. วิธีเติมคลอรีนสระว่ายน้ำแบบผง

การเติมคลอรีนผง จะต้องนำไปละลายกับน้ำสะอาดในถังก่อน เพื่อลดการฟุ้งกระจายของคลอรีน หากโรยลงสระว่ายน้ำไปตรง ๆ เลย จะทำให้ผงคลอรีนสระว่ายน้ำฟุ้งกระจาย หรือปลิวเข้าจมูกได้ ไม่ดีต่อสุขภาพระยะยาว


2. วิธีเติมคลอรีนสระว่ายน้ำแบบเกล็ด

สำหรับคลอรีนแบบเกล็ด กรณีเป็นสระว่ายน้ำคอนกรีต สามารถเติมลงไปได้ทันที แต่ถ้าสระว่ายน้ำเป็นแบบไฟเบอร์กลาสหรือไวนิล ควรละลายน้ำก่อน เพราะหากโรยลงไปทันที คลอรีนที่มีฤทธิ์เป็นกรดจะไปกัดพื้นสระว่ายน้ำให้เป็นรอยด่างได้ และพยายามอย่าเทคลอรีนซ้ำจุดบ่อย ๆ เพราะจะไปกัดพื้นสระทำให้เกิดการรั่วซึมนั่นเอง


3. วิธีเติมคลอรีนสระว่ายน้ำแบบก้อน

การเติมคลอรีนสระว่ายน้ำแบบก้อน สามารถทำได้ 2 วิธี วิธีแรกนำคลอรีนก้อนสักประมาณ 1-2 ก้อน ไปใส่ทุ่นลอยแล้วนำลงในน้ำ ส่วนอีกวิธีสามารถใช้คลอรีนฟีดเดอร์ (Chlorine Feeder) หรือเครื่องจ่ายคลอรีนได้ โดยห้ามโยนคลอรีนแบบก้อนลงสระโดยตรง เพราะอาจทำให้พื้นสระเสียหายหรือชำรุดได้ 


ข้อควรรู้เพิ่มเติม : ควรใส่ถุงมือก่อนทำการเติมคลอรีนสระว่ายน้ำ หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง เนื่องจากคลอรีนเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน จะทำให้ระคายเคืองผิวได้นั่นเอง


หลังเติมคลอรีนสระว่ายน้ำ ต้องทำอะไรบ้าง?

1. เปิดระบบหมุนเวียน

เมื่อเติมคลอรีนสระว่ายน้ำเสร็จแล้ว ควรเปิดระบบหมุนเวียนน้ำให้ปั๊มและตัวกรองเดิน เพื่อให้คลอรีนกระจายตัวทั่วสระ ให้สามารถฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียในสระว่ายน้ำได้อย่างทั่วถึง และออกซิไดซ์สิ่งสกปรกได้เต็มที่ โดยควรเปิดระบบหมุนเวียนไว้ต่อเนื่อง อย่างน้อยประมาณ 4–8 ชั่วโมง 


2. ตรวจสอบค่าคุณภาพน้ำในสระว่ายน้ำ

หลังจากเติมคลอรีนสระว่ายน้ำและเปิดระบบหมุนเวียนแล้ว จึงวนมาตรวจสอบค่า pH และค่าคลอรีนในสระว่ายน้ำอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งค่า pH ที่เหมาะสมนั้นต้องอยู่ระหว่าง 7.0 – 7.6 ส่วนค่าคลอรีนนั้นจะต้องรักษาไว้ที่ 1–3 ppm นั่นเอง


ทำไมควรให้มืออาชีพดูแลสระว่ายน้ำแทนการดูแลด้วยตัวเอง?

แม้เจ้าของจะตรวจสอบดูแลสระว่ายน้ำด้วยตัวเองเบื้องต้นได้ แต่การดูแลสระว่ายน้ำที่ถูกวิธีต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและอุปกรณ์ที่เหมาะสม ทีมงานมืออาชีพจะดูแลครบวงจร ตั้งแต่การตรวจค่าเคมี เติมสารเคมีในปริมาณที่แม่นยำ ล้างระบบกรอง ดูแลพื้นผิวสระ และควบคุมระบบหมุนเวียนน้ำให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ดังนั้นจึงควรมีการดูแลสระว่ายน้ำด้วยตัวเองในเบื้องต้นและให้มืออาชีพดูแลในส่วนที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ


หากไม่แน่ใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถปรึกษาทาง siampoolth ผู้ให้บริการสระว่ายน้ำครบวงจรที่มีประสบการณ์มากว่า 15 ปี บริการของเราครอบคลุมตั้งแต่ออกแบบ สร้าง ดูแลสระว่ายน้ำ

 
 
bottom of page