top of page

SIAMPOOL THAILAND

BLOG & UPDATE

วิธีเลือกปั๊มสำหรับสระว่ายน้ำ ให้ตอบโจทย์การใช้งาน


วิธีเลือกปั๊มสำหรับสระว่ายน้ำ

“ปั๊มน้ำ” เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากสำหรับสระว่ายน้ำ เพราะมีหน้าที่สร้างการหมุนเวียนของน้ำภายในสระ เพื่อไม่ให้น้ำนิ่งจนเกิดตะกอน ช่วยกรองเอาสิ่งสกปรก สิ่งเจือปนต่าง ๆ รวมถึงยังช่วยกระจายสารเคมีในสระอย่างทั่วถึง เพิ่มความสมดุลที่เหมาะสมให้กับสระว่ายน้ำ เพื่อพร้อมสำหรับการใช้งาน ด้วยเหตุนี้เมื่อคุณวางแผนสร้างสระว่ายน้ำ หรือเตรียมใช้บริการรับทำสระว่ายน้ำก็ควรรู้จักวิธีเลือกปั๊มสระว่ายน้ำอย่างเหมาะสม ทางสยามพลูผู้เชี่ยวชาญด้านสระว่ายน้ำจะพามาดูประเภทและวิธีการเลือกปั้มสำหรับสระว่ายน้ำ

ประเภทของปั๊มสำหรับสระว่ายน้ำ

  • ปั๊มทั่วไป ปั๊มแบบมีตะกร้ากรอง ใช้กับระบบการกรอง การหมุนเวียนน้ำภายในสระ นิยมใช้กับสระขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น สระในบ้าน โรงแรม คอนโด

  • ปั๊มเชิงพาณิชย์ ออกแบบเพื่อการใช้งานกับสระขนาดใหญ่ เช่น สโมสร โรงเรียน สนามกีฬา สวนสนุก ลักษณะการทำงานเป็นแบบเดียวกับปั๊มทั่วไป

  • ปั๊มเสริมแรง ลักษณะคล้ายปั๊มทั่วไปเช่นกันแต่จะไม่มีตะกร้ากรองเพื่อเพิ่มอัตราการไหลสำหรับใช้กับสระที่ต้องการแรงส่ง แรงดูด เช่น ระบบน้ำตก น้ำพุ สปา จากุชชี่ สระน้ำวน

  • ปั๊มปรับความเร็ว ปรับความเร็วรอบการทำงานได้ จึงใช้งานได้หลายรูปแบบ สามารถปรับอัตราการไหลให้เร็ว-ช้าได้ตามต้องการ 

วิธีเลือกปั๊มสำหรับสระว่ายน้ำให้ตอบโจทย์ความคุ้มค่า

1. ประเมินขนาดและปริมาณน้ำในสระ

ในที่นี้หมายถึงขนาดความกว้าง ยาว ลึกระหว่างน้ำกับพื้นผิว ปริมาตรน้ำภายในสระ เพื่อการเลือกขนาดของปั๊มน้ำและกำลังไฟอันเหมาะสมสร้างการหมุนเวียนของน้ำในสระว่ายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

2. อัตราการหมุนเวียนน้ำ

ต้องรู้จุดประสงค์ของการรับทำสระว่ายน้ำว่าสร้างเพื่ออะไร เพราะสระแต่ละรูปแบบมีอัตราการหมุนเวียนน้ำแตกต่างกันออกไป เช่น สระที่มีระบบน้ำวน หรือระบบสปา จากุชชี่ จะมีอัตราการหมุนเวียนสูงกว่าสระทั่วไป หรือสระของสวนสนุกจะมีอัตราการหมุนเวียนน้ำสูง ขนาดของปั๊มจึงแตกต่างกันชัดเจน

3. ระดับเสียงของปั๊ม

หลายคนอาจคิดว่าเรื่องเสียงไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่คนที่ชื่นชอบการพักผ่อนด้วยความเงียบสงบบริเวณสระว่ายน้ำ ระดับเสียงของปั๊มน้ำจึงถือเป็นอีกปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณา ดังนั้นควรเลือกปั้มน้ำสระว่ายน้ำที่ระดับเสียงไม่ดังรบกวน เช่น มีการเสริมวัสดุลดเสียง การใช้มอเตอร์แบบปิด ทั้งนี้ผู้ผลิตปั้มน้ำส่วนใหญ่มักมีการคำนวณระดับเสียงของปั๊มน้ำเป็นเดซิเบลออกมาเพื่อให้ลูกค้าประเมินความพึงพอใจก่อนเลือกซื้อ

4. การใช้พลังงาน

พลังงานของปั๊มน้ำซึ่งวัดเป็นหน่วยวัตต์ หมายถึงกำลังไฟฟ้าที่ปั๊มใช้ในการทำงาน หากสระขนาดใหญ่ย่อมต้องใช้ปั๊มที่มีกำลังวัตต์สูงกว่าสระขนาดกลางหรือสระขนาดเล็ก ช่วยให้ปั๊มทำงานเต็มประสิทธิภาพ ไม่ทำงานหนักหรือโอเวอร์โหลดมากเกินไป ยืดอายุการใช้งานได้ดี รวมถึงควรเปรียบเทียบปั้มน้ำในขนาดเดียวกันเพื่อดูปริมาณของไฟฟ้าที่ใช้

5. คุณภาพของวัสดุ ความทนทานของปั๊ม

ไม่ว่าใครย่อมต้องการสินค้าที่ดีมีประสิทธิภาพเพื่อความคุ้มค่าของการใช้งาน เรื่องของวัสดุปั๊มน้ำจึงเป็นอีกสิ่งที่อย่ามองข้ามเด็ดขาด พื้นฐานสำคัญต้องซื้อจากผู้ผลิตหรือแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยม ไม่ขึ้นสนิม หรือพังเสียหายง่าย ทนต่อการกัดกร่อน และสภาพแวดล้อมภายในสระว่ายน้ำได้ดี

6. การรับประกันสินค้า และการหาอะไหล่เปลี่ยน

เป็นบริการเพิ่มเติมจากผู้ผลิตหรือผู้ขาย เพื่อสร้างความมั่นใจว่ากรณีเกิดข้อผิดพลาดของการทำงานจะมีช่างมืออาชีพเข้ามาช่วยดูแลแก้ไข รวมถึงควรเลือกยี่ห้อหรือรุ่นที่หาอะไหล่เปลี่ยนได้ง่าย ไม่เสียเวลารอนาน ๆ จนขาดการใช้งานสระว่ายน้ำ

7. ขนาดและพื้นที่ติดตั้งปั๊มน้ำ

สุดท้าย ต้องประเมินว่าพื้นที่สำหรับติดตั้งปั๊มน้ำเหมาะสมหรือไม่ เพื่อให้การติดตั้งเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องรื้อปรับทำเลกันใหม่ให้ยุ่งยาก หรือต้องติดตั้งบริเวณอื่นซึ่งไม่เหมาะสมกับการใช้งาน


นี่คือวิธีเลือกปั๊มน้ำสำหรับสระว่ายน้ำที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกประเภทสระ ย้ำอีกครั้งว่าการเลือกปั๊มจากแบรนด์หรือผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ จะช่วยให้คุณได้ปั๊มน้ำดีมีคุณภาพ ตอบโจทย์ความคุ้มค่าของการใช้งานอย่างแน่นอน จากสนใจสร้างสระว่ายน้ำสามารถปรึกษากับทาง Siampool บริการสระว่ายน้ำครบวงจร ตั้งแต่ออกแบบสระว่ายน้ำ สร้างสระว่ายน้ำ ดูแลสระว่ายน้ำ ซ่อมแซมสระว่ายน้ำ ให้บริการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านสระว่ายน้ำ

bottom of page