การปูพื้นรอบสระว่ายน้ำ มีข้อควรรู้อะไรบ้าง?
- Siampool Thailand
- 10 ต.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา

สระว่ายน้ำไม่ได้เป็นแค่จุดพักผ่อนในบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็น “จุดเด่น” ที่ช่วยยกระดับความสวยงามและมูลค่าของพื้นที่โดยรอบได้อีกด้วย ซึ่งการที่จะทำสระว่ายน้ำให้สวยงามได้นั้น นอกจากจะต้องมีการตกแต่งที่สวยงาม และมีน้ำที่ใสสะอาดแล้ว ยังต้องทำ “พื้นรอบสระว่ายน้ำ” ให้สวยงามและปลอดภัยด้วยเช่นกัน หากกำลังวางแผนจะสร้างสระว่ายน้ำอยู่ล่ะก็ บทความนี้จะพาไปดูทุกแง่มุมของการปูพื้นรอบสระว่ายน้ำ ตั้งแต่การเลือกวัสดุ เทคนิคการติดตั้ง ไปจนถึงข้อควรระวังที่หลายคนมักมองข้าม
ทำไมต้องปูพื้นรอบสระว่ายน้ำ?
การปูพื้นรอบสระว่ายน้ำ นอกจากจะทำให้สระว่ายน้ำดูสวยงามมีระดับมากขึ้นแล้ว ยังช่วยป้องกันการลื่นล้มบริเวณทางเดินรอบสระว่ายน้ำที่มักเปียกอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้สามารถใช้งานสระว่ายน้ำได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยการเลือกวัสดุปูพื้นนั้น ควรพิจารณาทั้งเรื่องฟังก์ชันและดีไซน์ควบคู่กันไป
การปูพื้นสระว่ายน่ำ สำหรับคนที่อยากสร้างสระว่ายน้ำในบ้าน
หลายคนที่มีบ้านอยู่แล้ว แต่อยากเพิ่มสระว่ายน้ำส่วนตัวไว้พักผ่อนหรือออกกำลังกาย ก็ต้องเริ่มจากการวางแผนพื้นที่ ออกแบบสระว่ายน้ำที่มีขนาดเหมาะสมกับตัวบ้าน ขุดพื้นที่และทำฐานราก ติดตั้งระบบน้ำและไฟ จากนั้นจึงทำการปูพื้นสระว่ายน้ำ และตกแต่ง ซึ่งต้องเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนต่อสภาพอากาศ และเข้ากับดีไซน์บ้าน โดยวัสดุยอดนิยม เช่น กระเบื้องเซรามิกกันลื่น, ไม้เทียม หรือหินธรรมชาติ เป็นต้น ที่สำคัญ ก่อนปูพื้นสระว่ายน้ำ ควรตรวจสอบโครงสร้างและระบบระบายน้ำรอบสระให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการทรุดหรือการขังของน้ำด้วย ซึ่งการสร้างสระว่ายน้ำในบ้านไปจนถึงปูพื้นสระว่ายน้ำนั้น ควรเลือกช่างสระว่ายน้ำที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงาน เพื่อให้งานออกมาดีและเนี้ยบที่สุด
วัสดุปูพื้นรอบสระว่ายน้ำ มีอะไรบ้าง?
1. ไม้
“ไม้” เป็นวัสดุปูรอบสระว่ายน้ำอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยม โดยจะมีให้เลือกทั้งไม้ปลอม หรือไม่พลาสติก และไม้จริง (แต่ส่วนมากมักจะใช้ไม้ปลอมเพราะมีความทนทานมากกว่า)
ไม้พลาสติก (WPC หรือ Wood Plastic Composite) : ผลิตจากไม้ผสมพลาสติก มีลายคล้ายไม้จริง แต่ทนแดดและความชื้นได้ดีกว่า สามารถกันน้ำได้ 100% ไม่ผุหรือปลวกกิน แต่จำเป็นที่จะต้องติดตั้งบนโครงเหล็กหรือไม้รองพื้น เพื่อความทนทาน
ไม้จริง (เช่น ไม้เต็ง ไม้แดง หรือไม้สัก) : ให้ความรู้สึกหรูหราได้มากกว่าไม้ปลอม เดินแล้วเย็นเท้า ไม่ร้อนเมื่อโดนแดด แต่ผุและซีดเร็วถ้าโดนน้ำบ่อย ทั้งยังต้องทาน้ำยาเคลือบไม้และซ่อมบำรุงเป็นประจำ
2. กระเบื้อง
กระเบื้อง (Ceramic หรือ Porcelain Tile) เป็นอีกหนึ่งวัสดุปูพื้นรอบสระว่ายน้ำที่ได้รับความนิยม เนื่องจากติดตั้งง่าย มีหลายลวดลาย ล้างทำความสะอาดง่าย ทนแดดและสารเคมีในน้ำ ทั้งยังราคาหลากหลายตั้งแต่ประหยัดไปจนถึงราคาพรีเมียม แต่ควรเลือกผิวกันลื่นหรือผิวหยาบ เพื่อป้องกันการลื่นไถลขณะใช้งานนั่นเอง โดยส่วนมากมักจะใช้กระเบื้องผิวด้านกันลื่น เกรด R10–R12 สำหรับตกแต่งรอบสระว่ายน้ำ
3. หินธรรมชาติ
วัสดุปูรอบสระว่ายน้ำอย่าง หินธรรมชาติ (Natural Stone) เช่น หินทราย, หินแกรนิต, หินอ่อน, หินกาบ ก็ได้รับความสนใจเช่นเดียวกัน ข้อดีคือให้ความสวยงามแบบธรรมชาติ มีความแข็งแรง ทนทาน ทั้งยังไม่อมความร้อน แต่มีราคาค่อนข้างสูง และหินบางชนิดอาจสึกกร่อนได้เมื่อโดนน้ำคลอรีน จึงต้องเคลือบผิวกันน้ำเป็นระยะ
4. พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย
พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย (Stamped Concrete) คือพื้นที่เกิดจากการเทคอนกรีตแล้วปั๊มลวดลายลงบนผิว เช่น ลายหิน ลายไม้ เป็นวัสดุปูพื้นรอบสระว่ายน้ำที่มีราคาไม่แพง มีลวดลายหลากหลาย และมีความแข็งแรงทนแดดทนฝนเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับสระว่ายน้ำที่มีพื้นที่กว้างหรือสระกลางแจ้งที่ต้องการความแข็งแรงทนทาน
5. หญ้าเทียม
วัสดุปูพื้นรอบสระว่ายน้ำอีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมคือ “หญ้าเทียม” ข้อดีคือให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ สดชื่น เดินสบายเท้า ทั้งยังไม่ต้องรดน้ำหรือตัดหญ้าแต่อย่างใด นิยมใช้ร่วมกับพื้นไม้เทียมหรือหินธรรมชาติเพื่อเพิ่มความสดชื่นรอบสระ
ข้อควรรู้ก่อนปูพื้นรอบสระว่ายน้ำ
1. เลือกวัสดุ “กันลื่น” เป็นอันดับแรก
ข้อควรจำสำคัญในการเลือกวัสดุปูพื้นรอบสระว่ายน้ำ คือควรเลือกวัสดุ “กันลื่น” มาเป็นอันดับแรก อย่าดูเพียงความสวยงามเท่านั้น เพราะทางเดินรอบสระว่ายน้ำมักเปียกอยู่ตลอดเวลา ทำให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ง่ายนั่นเอง ซึ่งค่ากันลื่นในระดับมาตรฐานก็คือ R10 ขึ้นไป หรือ COF ≥ 0.6 (Coefficient of Friction) นับเป็นค่ากันลื่นที่ใช้กันทั่วไป
2. ออกแบบระบบระบายน้ำรอบสระ
การออกแบบระบบระบายน้ำให้ดี จะช่วยให้การระบายน้ำในสระว่ายน้ำเป็นไปอย่างราบรื่นและสมดุล ซึ่งจะช่วยป้องกันน้ำขัง อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดคราบสกปรก ตะไคร่น้ำในสระว่ายน้ำ และอุบัติเหตุลื่นล้มได้อย่างดี
พื้นควรมีความลาดเอียง 1–2% ให้ระบายน้ำออกจากสระได้อย่างสะดวก
ติดตั้งรางระบายน้ำ (Drain) รอบขอบสระเพื่อป้องกันน้ำขัง
3. คำนึงถึงอุณหภูมิพื้นผิว
วัสดุปูทางเดินรอบสระว่ายน้ำบางประเภท เช่น คอนกรีตหรือไม่เทียม จะร้อนจัดเมื่อโดนแดด จึงควรเลือกวัสดุปูรอบสระว่ายน้ำให้เหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่นั้น ๆ เช่น หากเป็นสระกลางแจ้ง ควรเลือกใช้พื้นที่ไม่ดูดซึมความร้อน เช่น กระเบื้องกันลื่น หญ้าเทียม หรือไม้ธรรมชาติ เป็นต้น
4. ดูแลรักษาง่าย
วัสดุปูพื้นรอบสระว่ายน้ำ ควรเป็นวัสดุที่ดูแลรักษาและล้างทำความสะอาดง่าย เช่น พื้นไม้เทียม หรือกระเบื้องพอร์ซเลนผิวด้าน ซึ่งเป็นวัสดุปูทางเดินรอบสระว่ายน้ำที่ล้างทำความสะอาดคราบคลอรีน คราบสระน้ำ และเชื้อรา ได้ง่าย
การดูแลพื้นรอบสระว่ายน้ำให้สวยเหมือนใหม่
กวาดหรือฉีดล้างคราบน้ำทุกสัปดาห์
ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยน (หลีกเลี่ยงกรดแรง)
ตรวจรอยต่อยาแนวเป็นระยะ หากหลุดให้ซ่อมทันที
หากเป็นพื้นไม้ ให้ทาน้ำยาเคลือบกัน UV ปีละ 1–2 ครั้ง
การปูพื้นรอบสระว่ายน้ำ จะต้องทำโดยสระว่ายน้ำที่มีความเชี่ยวชาญ หรือบริการดูแลสระว่ายน้ำครบวงจรเท่านั้น เพราะต้องใช้ “ความแม่นยำ” ในการจัดทำในทุกขั้นตอน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และความสะดวกในการใช้งานมากที่สุด