top of page

SIAMPOOL THAILAND

BLOG & UPDATE

วิธีดูแลถังกรองสระว่ายน้ำ ให้ระบบกรองทำงานแบบมีประสิทธิภาพ

  • รูปภาพนักเขียน: Siampool Thailand
    Siampool Thailand
  • 23 พ.ค.
  • ยาว 1 นาที

ดูแลถังกรองสะว่ายน้ำ

ถังกรองสระว่ายน้ำ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ เนื่องจากจะช่วยกรองสิ่งสกปรกออกจากน้ำในสระ ลดการสะสมของเชื้อโรค สร้างความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน ซึ่งต้องมีการดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ถังกรองสระทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


ถังกรองสระว่ายน้ำ คืออะไร?

ถังกรองสระว่ายน้ำ คือ อุปกรณ์ที่อยู่ในระบบกรองน้ำ มีหน้าที่กรองสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกจากน้ำ ก่อนส่งน้ำกลับเข้าสู่สระว่ายน้ำ


โดยชิ้นส่วนหลัก ๆ ของถังกรองสระว่ายน้ำ จะประกอบไปด้วย ถังแรงดัน ทำหน้าที่รองรับแรงดันน้ำ, ทรายกรอง ช่วยกรองสิ่งสกปรกต่าง ๆ ในสระว่ายน้ำ, วาล์วมัลติพอร์ต ช่วยควบคุมทิศทางการไหลของน้ำ และหัวจ่ายน้ำ ซึ่งจะคอยทำหน้าที่กระจายและรับน้ำในสระอย่างสม่ำเสมอ 


หลักการทำงานของถังกรองสระว่ายน้ำ 

เมื่อปั๊มน้ำดูดน้ำในสระเข้ามาสู่ถังกรองสระว่ายน้ำ ก็จะไหลผ่านทรายกรอง ซึ่งทรายกรองจะทำหน้าที่ดักสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่น เศษผง ตะไคร่ เอาไว้ในชั้นทราย และปล่อยน้ำสะอาดเข้าสู่สระว่ายน้ำ


วิธีดูแลถังกรองสระว่ายน้ำ


1. ทำความสะอาดถังกรองสระว่ายน้ำแบบไม่เปิดฝาถัง (Backwash)

การทำความสะอาดถังกรองสระว่ายน้ำแบบไม่เปิดฝาถัง (Backwash) เป็นการชะล้างทรายกรอง โดยใช้แรงดันน้ำย้อนกลับ เพื่อให้สิ่งสกปรกในทรายไหลออกไปทางท่อทิ้งน้ำ ซึ่งปกติจะทำการ Backwash เมื่อน้ำในสระเริ่มขุ่น หรือมีแรงดันน้ำในเกจเพิ่มขึ้น 7–10 psi จากค่าปกติ แต่ไม่ควรทำบ่อย เพราะจะทำให้ทรายกรองเสื่อมสภาพเร็ว 


วิธีทำ Backwash ถังกรองสระว่ายน้ำ


1.1 ปิดสวิตช์ปั๊มน้ำทุกครั้ง เพื่อกันไม่ให้แรงดันทำวาล์วเสียหาย จากนั้นให้หมุนวาล์วมัลติพอร์ตไปที่ตำแหน่ง "Backwash"

1.2 เปิดปั๊มน้ำให้น้ำไหลย้อนจากด้านล่างขึ้นด้านบนของถัง โดยสิ่งสกปรกต่าง ๆ จะไหลออกไปทางท่อน้ำทิ้ง

1.3 รอประมาณ 3-4 นาที หรือจนกว่าน้ำจะใสสะอาด 

1.4 ปิดปั๊มน้ำอีกครั้ง แล้วค่อยหมุนวาล์วไปที่ตำแหน่ง "Rinse" เพื่อเคลียร์เศษสิ่งสกปรกที่ยังตกค้าง 

1.5 เปิดปั๊มน้ำค้างไว้อีกประมาณ 20-30 วินาที แล้วค่อยปิด

1.6 หมุนวาล์วกลับไปที่ตำแหน่ง "Filter" แล้วเปิดปั๊มน้ำอีกครั้ง เพื่อใช้งานตามปกติ


2. เปลี่ยนทรายกรองทุก 3–5 ปี

เมื่อใช้งานถังกรองสระว่ายน้ำไปนาน ๆ ตัวกรองทรายภายในตัวถังย่อมเกิดการเสื่อมสภาพเป็นเรื่องธรรมดา จึงควรเปลี่ยนทรายกรองทุก 3–5 ปี เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


วิธีสังเกตว่าควรเปลี่ยนตัวกรองทรายหรือไม่ ให้เช็กจากน้ำและแรงดัน หากมีน้ำขุ่นแม้ผ่านการกรอง หรือแรงดันน้ำลดลง แสดงว่าควรเปลี่ยนทรายกรองแล้ว 


3. ตรวจเช็กแรงดันจาก Pressure Gauge

การตรวจเช็กแรงดันจาก Pressure Gauge เป็นวิธีดูแลถังกรองสระว่ายน้ำที่มองข้ามไม่ได้ เพื่อประเมินว่าถึงเวลา Backwash แล้วหรือยัง? หรือระบบกรองน้ำมีปัญหาเกิดขึ้นหรือไม่ 


การตรวจเช็ก Pressure Gauge ให้ดูจากแรงดัน ค่าแรงดันปกติจะอยู่ที่ 10–15 psi กรณีเกิน 20 psi แสดงว่าควรทำการ Backwash แต่หากค่าต่ำมาก ก็เป็นไปได้ว่าปั๊มอาจมีปัญหา หรือมีการรั่วในระบบ


4. ป้องกันจากแสงแดดจัด 

หากเป็นถังกรองสระว่ายน้ำแบบไฟเบอร์ และตั้งอยู่กลางแจ้ง หรือตั้งไว้ในบริเวณที่มีแดดส่องถึง ควรนำหลังคาหรือผ้าคลุมกันแดดมาคลุมไว้ เพื่อยืดอายุของถังและวาล์วไม่ให้กรอบหรือชำรุดได้ง่าย


5. รักษาสมดุลน้ำในสระ

การรักษาสมดุลน้ำในสระ ไม่ว่าจะเป็นค่าเคมีต่าง ๆ เช่น ค่า pH, ค่าคลอรีน และค่าความกระด้าง ก็ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสม หากน้ำในสระมีค่าเคมีที่ไม่สมดุล จะทำให้วัสดุกรองเสื่อมเร็ว ทั้งยังเกิดตะไคร่ในระบบกรองได้อีกด้วย 


การดูแลถังกรองสระว่ายน้ำเป็นเรื่องสำคัญ เพราะส่งผลกับการทำงานของระบบกรองสระว่ายน้ำโดยตรง นอกจากจะปลอดภัยกับสุขภาพของผู้ใช้งานแล้ว ยังมีผลต่ออายุการใช้งานของอุปกรณ์สระว่ายน้ำอีกด้วย 

หากต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสระว่ายน้ำ การซ่อมสระว่ายน้ำ หรือเรื่องอุปกรณ์สระว่ายน้ำเพิ่มเติม สามารถปรึกษาพูดคุยได้กับ Siampool ผู้ให้บริการสระว่ายน้ำครบวงจร มีทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์สร้างสระว่ายน้ำมานานกว่า 15 ปีคอยดูแล

 
 
bottom of page