เคล็ดลับดูแลสระว่ายน้ำในช่วงหน้าฝน จะน้ำท่วม หรือฝนตก ก็ไม่กลัว
- Siampool Thailand
- 8 ส.ค.
- ยาว 1 นาที

การดูแลสระว่ายน้ำในช่วงหน้าฝนเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝนตกหนักบ่อย ๆ หรือมีความเสี่ยงจากน้ำท่วม เนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพและความสะอาดของน้ำ อาจทำให้ค่าเคมีในน้ำเปลี่ยน หรือมีสิ่งสกปรกต่าง ๆ ไหลลงไปในสระว่ายน้ำ หากขาดการดูแลอย่างถูกวิธี อาจทำให้สระว่ายน้ำสวย ๆ ที่ควรใช้งานได้ยาวนานมีอายุสั้นลง เกิดตะไคร่น้ำ หรือได้รับความเสียหายจากเศษวัสดุที่ไหลเข้ามาได้ โดยบทความนี้ Siampool จะพาไปทำความเข้าใจถึงปัญหา พร้อมแนะนำวิธีดูแลสระว่ายน้ำในช่วงหน้าฝน
ปัญหาสระว่ายน้ำที่พบในช่วงหน้าฝน
ค่า pH น้ำเปลี่ยน
ค่า pH ของน้ำในสระว่ายน้ำมักเปลี่ยนแปลงหลังฝนตก เพราะฝนมีความเป็นกรดอ่อน ๆ เมื่อผสมกับน้ำในสระก็จะทำให้ค่า pH ในสระว่ายน้ำต่ำกว่าปกติ นอกจากนี้ น้ำฝนยังสามารถพาสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น ฝุ่น, ดิน หรือใบไม้ ตกลงสู่สระ เมื่อเกิดการย่อยสลายก็จะปล่อยกรดอินทรีย์ออกมา ทำให้ค่า pH ผันผวนมากขึ้น หากไม่มีการปรับสมดุลน้ำและดูแลสระว่ายน้ำอย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำขุ่น มีคลอรีนต่ำ มีตะไคร่ขึ้น หรือเกิดการกัดกร่อนพื้นผิวสระในระยะยาวได้ โดยระดับค่า pH ที่เหมาะสมกับสระว่ายน้ำนั้นอยู่ที่ 7.2 - 7.6
เศษขยะและสิ่งสกปรกตกค้างในสระ
ฝนมักพัดพาเศษขยะและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ตกลงสู่สระว่ายน้ำ เช่น เศษฝุ่น, เศษดิน, ใบไม้ หรือกิ่งไม้ต่าง ๆ รวมถึงขยะและเศษวัสดุต่าง ๆ จากบริเวณรอบข้าง หากขาดการดูแลสระว่ายน้ำ ปล่อยปละละเลย ไม่ทำความสะอาดนำเศษสิ่งสกปรกเหล่านี้ออก ก็จะทำให้เกิดการสะสม ส่งผลให้น้ำขุ่น ระบบกรองทำงานหนักขึ้น หรืออาจอุดตันได้ นอกจากนี้ หากมีเศษต่าง ๆ ค้าง เช่น ใบไม้หรือเศษอาหาร จะกลายเป็นแหล่งหมักหมมให้จุลินทรีย์เติบโต ซึ่งนำไปสู่การเกิดกลิ่นเหม็น การเจริญเติบโตของตะไคร่ หรือแม้กระทั่งเชื้อโรคในน้ำ ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพน้ำในสระว่ายน้ำนั่นเอง
ระบบกรองและปั๊มน้ำเสียหาย
ปัญหานี้มักเกิดในกรณีที่มีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จะทำให้น้ำในสระล้นขอบสระ จนนำเอาสิ่งสกปรกรอบข้าง เช่น ดิน, ใบไม้ หรือเศษต่าง ๆ ไหลย้อนเข้าสู่ระบบกรองและปั๊มน้ำโดยตรง หากระบบกรองรับสิ่งสกปรกปริมาณมากเกินไป อาจเกิดการอุดตัน จนประสิทธิภาพในการกรองลดลงหรือหยุดทำงานได้ ขณะเดียวกัน หากปั๊มน้ำตั้งอยู่ในบริเวณที่ไม่มีการติดตั้งระบบกันน้ำอย่างเหมาะสม เมื่อน้ำท่วมขัง มอเตอร์หรือวงจรไฟฟ้าในตัวปั๊มอาจได้รับความเสียหายได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อการสะสมความชื้นจนเกิดสนิมและสึกหรอง่ายอีกด้วยหากละเลยการดูแลสระว่ายน้ำ การป้องกันไม่ให้น้ำฝนเข้าปั๊มน้ำจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
โครงสร้างสระได้รับความเสียหาย
น้ำที่ท่วมขังรอบตัวสระอาจก่อให้เกิดแรงดันดินสูงผิดปกติ เนื่องจากน้ำฝนที่ซึมลงสู่ดินจะทำให้ความชื้นในพื้นดินรอบสระเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้เกิดแรงดันจากดินที่ดันเข้าหาโครงสร้างสระ หากสระไม่ได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับแรงดันเหล่านี้ได้ ก็อาจทำให้เกิดรอยแตกร้าว ผนังสระโก่งตัว หรือพื้นสระยุบตัว (โดยเฉพาะสระคอนกรีต) นอกจากนี้ น้ำฝนที่ปนเปื้อนสารเคมีหรือกรด ยังอาจกัดเซาะวัสดุกันซึมหรือขอบสระ เมื่อเกิดการรั่วซึม ก็จะทำให้โครงสร้างภายในสระเสื่อมสภาพเร็วขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการวางระบบระบายน้ำ ตรวจสอบโครงสร้างสระเป็นประจำ และดูแลสระว่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ
วิธีดูแลสระว่ายน้ำในช่วงฝนตก
ตรวจวัดและปรับสมดุลน้ำอย่างสม่ำเสมอ
น้ำฝนมีความเป็นกรดอ่อน ทำให้ค่า pH และระดับคลอรีนในน้ำสระเปลี่ยนแปลงไปจากค่ามาตรฐาน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพน้ำ และความสะอาดของน้ำในสระ จึงควรดูแลสระว่ายน้ำด้วยการตรวจวัดและปรับสมดุลน้ำในสระว่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ชุดทดสอบค่า pH และคลอรีนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง และหากพบว่าค่าคลอรีนต่ำกว่ามาตรฐาน (1–3 ppm) ควรเติมคลอรีนหรือสารฆ่าเชื้อทันที เพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยและพร้อมใช้งานตลอดเวลา
ใช้ผ้าคลุมสระเมื่อไม่ใช้งาน
การใช้ผ้าคลุมสระว่ายน้ำเมื่อไม่ได้ใช้งานในช่วงหน้าฝน เป็นวิธีการดูแลสระว่ายน้ำที่เรียบง่ายแต่ได้ผลดี โดยผ้าคลุมจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันไม่ให้น้ำฝน, เศษใบไม้, กิ่งไม้, ฝุ่นละออง หรือแม้แต่สัตว์เล็ก ๆ ตกลงสู่ผิวน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำขุ่น ระบบกรองทำงานหนัก และค่า pH ผันผวน นอกจากนี้ การใช้ผ้าคลุมสระยังช่วยลดการเจริญเติบโตของตะไคร่น้ำ เพราะแสงแดดไม่สามารถส่องลงไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของสาหร่ายได้ ทั้งยังช่วยรักษาอุณหภูมิน้ำและลดการระเหยของน้ำในวันที่อากาศร้อนอีกด้วย
เปิดระบบกรองหลังฝนตก
อีกหนึ่งวิธีดูแลสระว่ายน้ำหลังฝนตก คือการเปิดระบบกรองของสระว่ายน้ำ เพื่อช่วยกรองสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจปะปนมากับน้ำฝน เช่น ฝุ่น, ดิน, ใบไม้ ให้ออกจากสระว่ายน้ำ โดยควรเปิดระบบกรองให้ทำงานอย่างน้อย 6–12 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำหมุนเวียนและกรองสิ่งสกปรกออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเปิดระบบกรองนั้น ยังจะช่วยให้สารเคมีที่เติมลงไป เช่น คลอรีนหรือสารปรับค่า pH ถูกกระจายได้ทั่วถึง ช่วยทำให้ค่าคุณภาพน้ำกลับเข้าสู่ระดับมาตรฐานเร็วขึ้น และลดโอกาสเกิดตะไคร่หรือการสะสมของเชื้อโรคในสระอีกด้วย
การดูแลสระว่ายน้ำเมื่อเกิดน้ำท่วมและหลังเกิดน้ำท่วม
ตัดระบบไฟฟ้าก่อนเข้าตรวจสอบ : ก่อนจะเริ่มกระบวนการใด ๆ ต้องแน่ใจว่าระบบไฟฟ้าถูกตัดเรียบร้อย ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว
นำสิ่งแปลกปลอมออกจากสระ : ดูแลสระว่ายน้ำให้สะอาดหลังน้ำท่วมด้วยการเก็บเศษขยะ สัตว์เล็ก หรือสิ่งที่ไหลเข้ามากับน้ำท่วมให้หมดก่อนเริ่มการบำบัดน้ำ
ดูดน้ำเสียออกให้หมด : หากน้ำในสระมีสีหรือกลิ่นผิดปกติ ควรดูดน้ำออกให้หมด และเติมน้ำใหม่ที่ผ่านการกรองแล้ว
ตรวจสอบและทำความสะอาดระบบกรอง : ถอดและล้างแผ่นกรอง ตรวจสอบความเสียหายของปั๊ม หรือถังกรอง ทดสอบการทำงานก่อนเปิดใช้งานจริง
ช็อกคลอรีน : อีกหนึ่งวิธีการดูแลสระว่ายน้ำหลังน้ำท่วมที่เห็นผลไว คือการเติมคลอรีนในปริมาณสูงชั่วคราวเพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำ โดยปกติจะใช้คลอรีนในระดับ 10 ppm ขึ้นไป ทิ้งไว้ 24–48 ชม. แล้วจึงค่อยปรับค่าให้เหมาะสม
ตรวจสอบโครงสร้างสระว่ายน้ำ : หารอยแตกร้าว การรั่วซึม หรือการบวมของวัสดุปูพื้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากแรงดันดินหลังน้ำท่วม
วิธีการป้องกันไม่ให้น้ำท่วมสระว่ายน้ำจากฝนตก
หมายเหตุ: วิธีป้องกันด้านล่างนี้เหมาะกับการรับมือฝนตกหนัก หรือภาวะน้ำขังรอบสระจากฝนตามฤดูกาล ไม่สามารถใช้ได้ในกรณีน้ำท่วมใหญ่หรืออุทกภัยที่น้ำทะลักเข้าพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งในกรณีนั้นจำเป็นต้องดูแลสระว่ายน้ำหลังน้ำท่วมแทน
สร้างรางระบายน้ำรอบสระ : ติดตั้งรางน้ำหรือท่อระบายน้ำรอบขอบสระ เพื่อให้น้ำฝนหรือน้ำท่วมสามารถไหลออกได้อย่างรวดเร็ว
ยกระดับพื้นที่รอบสระ : การยกระดับพื้นทางเดินรอบสระว่ายน้ำให้สูงกว่าพื้นที่รอบบ้านจะช่วยลดความเสี่ยงน้ำไหลเข้าสระได้ดี
ติดตั้งปั๊มน้ำสำรองและระบบป้องกันน้ำท่วมอัตโนมัติ : ใช้ปั๊มดูดน้ำหรือเซนเซอร์แจ้งเตือนเมื่อน้ำเริ่มสูงผิดปกติ เพื่อระบายน้ำออกจากบริเวณสระทันที ถือเป็นวิธีดูแลสระว่ายน้ำที่ได้รับความนิยม
ออกแบบ Landscape ให้มีทิศทางระบายน้ำที่ดี : ปรับพื้นที่รอบสระให้มีความลาดเอียงหรือมีการวางผังระบายน้ำอย่างมีระบบ ไม่ให้ฝนขังหรือไหลย้อนเข้าสระ
การดูแลสระว่ายน้ำในช่วงหน้าฝนไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของความสะอาด แต่ยังเป็นการป้องกันปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ที่อาจส่งผลกระทบต่อความคงทนของโครงสร้างสระว่ายน้ำ รวมถึงสุขภาพของผู้ใช้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าของสระว่ายน้ำควรใส่ใจและไม่ปล่อยปละละเลย เพื่อให้ได้สระว่ายน้ำที่มีความใสสะอาด และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ แม้จะอยู่ในฤดูฝนก็ตาม หากเจอปัญหาสระว่ายน้ำสามารถปรึกษากับทาง Siampool ได้ เราให้บริการสระว่ายน้ำครบวงจรตั้งแต่ ออกแบบ ก่อสร้าง ดูแล ซ่อมแซมสระว่ายน้ำ เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสระว่ายน้ำ ให้บริการมายาวนานกว่า 15 ปี