top of page

SIAMPOOL THAILAND

BLOG & UPDATE

ถังกรองสระว่ายน้ำมีกี่แบบ มีวิธีการเลือกอย่างไร


ประเภทของถังกรองสระว่ายน้ำ

ถังกรองสระว่ายน้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบสระว่ายน้ำ มีหน้าที่ในการกำจัดสิ่งสกปรกและสารปนเปื้อน ทำให้น้ำใสสะอาดและปลอดภัย สำหรับการใช้งานควรเลือกถังกรองสระว่ายน้ำให้เหมาะสมกับขนาดของสระ ทาง Siampool บริษัทสร้างสระว่ายน้ำ จะพามาดูกันว่าถังกรองสระว่ายน้ำมีกี่แบบ และควรเลือกอย่างไรเพื่อให้ระบบสระว่ายน้ำทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ความสำคัญของถังกรองสระว่ายน้ำ

ถังกรองสระว่ายน้ำเป็นอุปกรณ์ดักจับและกำจัดอนุภาค สิ่งสกปรก ขยะ หรือวัตถุจำพวกกิ่งไม้ใบไม้ และสารปนเปื้อนออกจากน้ำในสระว่ายน้ำ มีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลทางเคมีของสระว่ายน้ำ กรณีที่ถังกรองได้รับการดูแลอย่างดี จะช่วยลดการใช้สารเคมีได้อย่างมาก และยังช่วยป้องกันอุปกรณ์สระว่ายน้ำอื่น ๆ ไม่ให้เสียหายหรืออุดตัน แม้ถังกรองจะมีหน้าที่ดักจับสารแขวนลอย แต่ตะกอนก้นสระหรือที่เกาะอยู่ข้างสระยัง จะต้องใช้เครื่องดูดตะกอนหรือใช้แปรงขัดออกอยู่ดี


ประเภทของถังกรองสระว่ายน้ำ

1. ถังกรองทราย (Sand Filters) 

เป็นถังกรองที่ได้รับความนิยมที่สุด เนื่องด้วยมีราคาถูก ภายในถังกรองจะบรรจุด้วยทรายชนิดพิเศษ ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นทรายซิลิกาเบอร์ 20 เพื่อดักจับสิ่งสกปรกและเศษขยะขณะที่น้ำไหลผ่านตัวกรอง และส่งน้ำสะอาดคืนสระว่ายน้ำ นอกจากราคาถูก ถังกรองประเภทนี้ยังง่ายต่อการบำรุงรักษา คุ้มค่าในการใช้งานและมีประสิทธิภาพดี เหมาะสำหรับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่


2. ถังกรองแบบใช้ไส้กรอง (Cartridge Filters) 

ซึ่งทำจากกระดาษหรือโพลีเอสเตอร์ มีการออกแบบให้พับซ้อนกันเป็นจีบเพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ผิว ทำให้กรองน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีประสิทธิภาพในการกรองน้ำได้ละเอียดถึง 10-15 ไมครอน และมักนิยมใช้กับสระว่ายน้ำขนาดเล็กหรือสปา การทำความสะอาดไม่ยุ่งยาก แต่ต้องทำเป็นประจำและเปลี่ยนไส้กรองเมื่อสึกหรอ


3. ถังกรองดินเบาไดอะตอม (Diatomaceous Earth (DE) Filters) 

ดินเบาเป็นสารที่ได้จากการสะสมของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวซึ่งตายทับถมกันอยู่ที่ชั้นดินในแหล่งน้ำจืดและน้ำทะเลนับล้านปี มีส่วนประกอบของซิลิกาเป็นจำนวนมาก สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กขนาด 2 ถึง 5 ไมครอนได้ดี ถังกรองดินเบาไดอะตอมประกอบด้วยตะแกรงหุ้มด้วยผ้าหลายชั้นซึ่งเคลือบด้วยผงดินเบา ด้วยคุณสมบัติในการจับสิ่งสกปรกและสิ่งเจือปนขนาดเล็ก ทำให้เป็นถังกรองที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพน้ำสูงสุด แต่ถังกรองมีขั้นตอนการบำรุงรักษามากกว่าถังกรองประเภทอื่นและต้องเติมดินเบาอยู่เสมอ


วิธีการเลือกถังกรองที่เหมาะสม

1. เลือกให้เหมาะกับขนาดของสระว่ายน้ำ 

โดยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ต้องใช้ถังกรองที่มีอัตราการไหลสูงและความจุมาก ในทางกลับกัน สระว่ายน้ำขนาดเล็กจะสามารถใช้ถังกรองได้อย่างอิสระมากกว่า


2. ประเภทของถังกรอง 

ควรศึกษาข้อดี-ข้อเสีย การบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายจำเป็นของถังกรองแต่ละประเภทโดยละเอียด เพื่อเลือกใช้งานเหมาะกับสระว่ายน้ำ


3. อายุการใช้งาน 

ถังกรองแต่ละประเภทมีอายุการใช้งานดังนี้

  • ถังกรองทราย : ทรายมีอายุการใช้งาน 5-7 ปี

  • ถังกรองแบบใช้ไส้กรอง : ไส้กรองมีอายุการใช้งาน 3-10 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และผู้ผลิต แต่ตัวถังกรองจะมีอายุการใช้งานนานกว่านั้น

  • ถังกรองดินเบาไดอะตอม : หากดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ตัวกรองจะมีอายุการใช้งานประมาณ 7 ถึง 10 ปี


4. งบประมาณ

สำหรับงบประมาณตั้งต้นของถังกรองสระว่ายน้ำแต่ละประเภท โดยเรียงลำดับจากน้อยไปมาก คือ ถังกรองทราย ถังกรองแบบใช้ไส้กรอง ถังกรองดินเบาไดอะตอม แต่หลังจากนั้นจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาแตกต่างกันไปตามการใช้งาน ถึงควรคำนวนถึงค่าบำรุงรักษาด้วย


การเลือกถังกรองที่เหมาะสมจะช่วยทำให้คุณภาพของน้ำในสระหลังผ่านระบบกรอง มีความสะอาด ปลอดภัย ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และส่งผลให้อุปกรณ์สระว่ายน้ำทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยยืดอายุการใช้งานของทั้งระบบ หากต้องการสร้างสระว่ายน้ำ สามารถติดต่อเข้ามาพูดคุยและปรึกษาได้ Siampool ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสระว่ายน้ำครบวงจร เชี่ยวชาญในการสร้างสระว่ายน้ำทุกรูปแบบ มีทีมงานมืออาชีพที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์สร้างสระว่ายน้ำมานานกว่า 15 ปี

bottom of page