top of page

SIAMPOOL THAILAND

BLOG & UPDATE

วิธีดูดตะกอนสระว่ายน้ำ ให้กลับมาใสแจ๋ว

  • รูปภาพนักเขียน: Siampool Thailand
    Siampool Thailand
  • 29 ต.ค.
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา

วิธีดูดตะกอนสระว่ายน้ำ

สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างสระว่ายน้ำไว้ในบ้าน ต้องบอกให้รับเข้าใจกันก่อนว่า สิ่งที่เจ้าของสระว่ายน้ำทุกคนต้องเจอก็คือ “ตะกอนในสระว่ายน้ำ” ไม่ว่าจะเป็นเศษฝุ่นละเอียด ใบไม้ที่จมลงไป หรือคราบตะกอนตามพื้น หากปล่อยไว้นาน น้ำจะเริ่มขุ่น ไม่น่าใช้งาน ทั้งยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะในบทความนี้ Siampool มีวิธีดูดตะกอนสระว่ายน้ำมาฝาก รับรองว่าจะทำให้น้ำในสระหายขุ่น ไม่มีตะไคร่น้ำในสระว่ายน้ำมากวนใจอย่างแน่นอน


ทำไมสระว่ายน้ำถึงมีตะกอน?

1. ฝุ่นและสิ่งสกปรกจากภายนอก

สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้สระว่ายน้ำมีตะกอนนั้น เกิดจากฝุ่นในอากาศ, ใบไม้, ดินทราย ที่ปลิวเข้ามาในสระว่ายน้ำ และเมื่อฝุ่นตกลงน้ำ ก็จะค่อย ๆ จมลงก้นสระ กลายเป็นตะกอนสีน้ำตาลหรือเทาสะสมอยู่ในสระว่ายน้ำ จนต้องทำการดูดตะกอนสระว่ายน้ำนั่นเอง

2. ตะกอนจากสารเคมีตกค้าง

เมื่อเติมคลอรีนหรือสารปรับค่า pH ลงในสระว่ายน้ำมากเกินไป อาจทำให้สารบางชนิดไม่ละลายหมด จนส่งผลให้ตกตะกอนเป็นผงขาว ๆ และไปสะสมในสระว่ายน้ำได้

3. ระบบกรองอุดตัน

หากระบบกรองอุดตันหรือแผ่นกรองในสระว่ายน้ำเก่ามากเกินไป ก็จะไม่สามารถดูดเศษเล็ก ๆ ออกได้หมด จึงเกิดการสะสมของตะกอนในสระว่ายน้ำนั่นเอง จึงควรเปลี่ยนแผ่นกรองสระว่ายน้ำ ดูแลถังกรองสระว่ายน้ำ และดูแลรักษาระบบกรองอย่างสม่ำเสมอ

4. น้ำไม่หมุนเวียนตามปกติ

สระว่ายน้ำที่ไม่ได้เปิดระบบหมุนเวียนน้ำทุกวัน หรือปิดไว้นานเกินไป จะส่งผลให้สิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ เกิดการตกตะกอนสะสมในสระว่ายน้ำ ทำให้น้ำในสระเริ่มขุ่นไม่น่าใช้งาน ทั้งยังทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคอีกด้วย จึงต้องดูดตะกอนสระว่ายน้ำ เพื่อให้น้ำใสสะอาดน่าใช้งานอยู่เสมอนั่นเอง


อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมก่อนดูดตะกอน

1. เครื่องดูดตะกอน (Vacuum Head) : เป็นหัวดูดที่ต่อเข้ากับด้ามยืดและสายดูด ใช้ดูดตะกอนสระว่ายน้ำตามพื้นสระ โดยแนะนำให้เลือกแบบหัวแปรงมีล้อหมุนสำหรับพื้นกระเบื้อง แต่ถ้าเป็นสระไวนิลหรือไฟเบอร์ ให้ใช้หัวดูดขนแปรงนุ่มเพื่อไม่ให้ขูดพื้น

2. ด้ามยืด (Telescopic Pole) : ใช้ต่อกับหัวดูดและอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อให้เอื้อมถึงก้นสระทุกจุด

3. สายดูด (Vacuum Hose) : สายยางยาวที่ต่อจากหัวดูดไปยังช่องดูดของระบบกรอง หรือปั๊มน้ำ

4. ตะกร้ากรองสเกิมเมอร์ (Skimmer Basket) : ช่วยกรองเศษใบไม้หรือฝุ่นก่อนเข้าสู่ปั๊ม

5. เครื่องกรองน้ำ (Filter System) : ทำหน้าที่กรองน้ำที่ผ่านจากการดูดตะกอนให้สะอาดก่อนปล่อยกลับเข้าสระ

6. แปรงขัดขอบสระ และกระชอนตักผง : ใช้ช่วยกำจัดคราบที่ติดผนังและสิ่งลอยก่อนดูดตะกอน


วิธีดูดตะกอนสระว่ายน้ำ

1. ปิดระบบกรองน้ำชั่วคราว

วิธีดูดตะกอนสระว่ายน้ำขั้นตอนแรก ควรปิดปั๊มน้ำและระบบกรองก่อนเริ่มงาน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลกลับระหว่างต่ออุปกรณ์

2. เตรียมชุดดูดตะกอน

  1. ต่อหัวดูดกับด้ามยืด จากนั้นจึงต่อสายดูดเข้ากับหัวดูด

  2. จุ่มทั้งชุดลงในน้ำ ไล่อากาศออกจากสายโดยให้ปลายสายอีกด้านอยู่ในน้ำ (เพื่อป้องกันอากาศเข้าปั๊ม)

  3. เมื่อสายเต็มไปด้วยน้ำแล้ว จึงเสียบปลายสายเข้าช่องดูดของสระ (Skimmer หรือช่อง Vacuum Port)

3. ตั้งค่าระบบกรองเป็น “Waste” หรือ “Drain”

หากเครื่องกรองสระว่ายน้ำเป็นแบบทราย (Sand Filter) ให้หมุนวาล์วไปที่โหมด “Waste” หรือ “Drain” เพื่อให้น้ำที่ดูดออกไปพร้อมตะกอนไม่ย้อนกลับเข้าระบบกรอง แต่โหมดนี้จะทำให้น้ำในสระลดลงเล็กน้อย ควรเติมน้ำใหม่ภายหลัง

4. เริ่มดูดตะกอนอย่างช้า ๆ

จากนั้นทำการดูดตะกอนสระว่ายน้ำอย่างช้า ๆ โดยทำตามวิธีดูดตะกอนสระว่ายน้ำ ได้ดังนี้

  • ค่อย ๆ เคลื่อนหัวดูดไปอย่างช้า ๆ อย่ารีบหรือกวาดแรง เพราะจะทำให้ตะกอนฟุ้งกระจาย

  • เริ่มจากมุมลึกของสระแล้วค่อย ๆ เคลื่อนออกไปยังส่วนตื้น

  • หากตะกอนหนามาก อาจต้องทำ 2–3 รอบเพื่อให้สะอาดหมดจด

5. เติมน้ำกลับเข้าสระ

วิธีดูดตะกอนสระว่ายน้ำขั้นตอนที่ 5 คือการเติมน้ำในสระ เพราะหลังจากดูดตะกอนในสระว่ายน้ำเสร็จแล้ว น้ำในสระจะลดลง ให้ใช้ท่อน้ำหรือระบบเติมอัตโนมัติเติมน้ำจนถึงระดับปกติ (ประมาณครึ่งช่องสเกิมเมอร์)

6. เปิดระบบกรองและตรวจค่าเคมี

  • เปิดระบบกรองในโหมด “FILTER” อีกครั้ง เพื่อให้กรองเศษเล็ก ๆ ที่อาจเหลืออยู่

  • ตรวจวัดค่าคลอรีนและ pH ของน้ำ หากคลอรีนต่ำให้เติมคลอรีนให้ได้ค่ามาตรฐาน (1–3 ppm)

  • ปรับค่า pH ให้อยู่ระหว่าง 7.2–7.6 เพื่อคงความใสและลดคราบตะกอนในอนาคต


เคล็ดลับทำให้สระใสแจ๋วได้นาน

  • เปิดระบบกรองน้ำอย่างน้อยวันละ 6–8 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำหมุนเวียนและลดการเกิดตะกอน

  • ขัดพื้นและผนังสระสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ช่วยป้องกันคราบตะไคร่และตะกอนฝังแน่น

  • ตักเศษใบไม้ทุกวัน เศษใบไม้เล็ก ๆ หากจมลงพื้นจะย่อยสลายเป็นตะกอนและทำให้น้ำขุ่น

  • ล้างระบบกรองเป็นประจำ (Backwash) สำหรับสระที่ใช้กรองทราย ควรล้างระบบทุก 1–2 สัปดาห์

  • ตรวจค่าคลอรีนและ pH อย่างสม่ำเสมอ เพราะน้ำที่ไม่สมดุลทางเคมีเป็นต้นเหตุหลักของการเกิดตะกอนและคราบขุ่น


สัญญาณเตือนว่าสระเริ่มมี “ตะกอนสะสม”

  • น้ำเริ่มขุ่นหรือมีฝุ่นลอยเมื่อกวนผิวน้ำ

  • พื้นสระลื่นหรือมีผงละเอียดจับอยู่

  • ต้องเติมคลอรีนบ่อยกว่าปกติแต่ยังรู้สึกว่าน้ำไม่สะอาด

  • น้ำกรองไหลช้าลง เพราะระบบกรองอุดตันด้วยตะกอน

เมื่อพบสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบทำการดูดตะกอนทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหมักหมมจนต้องเปลี่ยนน้ำใหม่ทั้งสระ


ควรให้ช่างดูแลสระว่ายน้ำมาดูดตะกอนดีไหม?

เจ้าของบ้านที่มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ภายในบ้าน ก็มักจะใช้บริการดูแลสระว่ายน้ำครบวงจรมาช่วยดูดตะกอนสระว่ายน้ำ เพราะช่างสระว่ายน้ำ จะสามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึงและรู้จุดที่มักมีตะกอนสะสม ทั้งยังมีเครื่องมือครบครัน ทำให้ดูดตะกอนออกได้เร็ว โดยเฉพาะสระใหญ่ หรือสระที่มีตะกอนหนา ช่วยประหยัดทั้งแรงและเวลาในการทำความสะอาดสระว่ายน้ำได้อย่างดี นอกจากนี้ ช่างยังมักตรวจดูความดันกรอง, ระดับน้ำ, ปั๊มน้ำ, และค่าเคมีคร่าว ๆ ให้ด้วย พร้อมแจ้งหากมีปัญหา


การดูดตะกอนสระว่ายน้ำไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำอย่างถูกวิธีและดูแลรักษาสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็สามารถคงความใสและความสะอาดของน้ำเอาไว้ได้แล้ว ทั้งยังช่วยยืดอายุระบบกรองให้ใช้งานได้นานขึ้นอีกหลายปี อย่างไรก็ตาม หากไม่รู้วิธีการดูแลสระว่ายน้ำเบื้องต้น หรือที่บ้านมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่มากเกินไป ทำให้ดูแลได้ไม่ทั่วถึง สามารถให้ Pool Services มาช่วยดูแลตรงนี้แทนได้

 
 
bottom of page